วันที่ 11 ม.ค. 67 เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา  นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พ.ต.อ.สังเวียน  อินตากูล รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี  ยะปาละ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.มนิต  มณีตระกูลทอง รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.อัครินทร์  กาสา รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.ไพโรจน์  ทองขาว ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง, พ.ต.อ.คมสันต์  บำรุงยศ ผกก.สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน กรณี มีผู้ร้องเรียนว่ามีการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน

         สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ทำการสืบสวน หาข่าว ทราบว่าผู้กระทำผิด ได้มีการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือนและรับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยมีการเก็บรถที่รับจำนำไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ ไว้ภายในบริเวณบ้านซึ่งเป็นบ้านพักอาศัย และบริเวณลาน ซึ่งได้ทำเป็นลักษณะลานจอดรถหรือรับฝากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดลำปาง จากนั้น ศาลจังหวัดลำปาง ได้อนุมัติหมายค้น  ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นดังกล่าว มาทำการตรวจค้นบ้านซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องสงสัย จากการตรวจสอบ ผู้กระทำผิดได้ให้การรับว่าสิ่งของตามรายการของกลาง รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ และกุญแจรถพร้อมเอกสาร ดังกล่าวทั้งหมดนั้น ตนได้รับจำนำมาจริง โดยมีการรับมาในลักษณะประเมินราคารถตามสภาพรถ ใหม่ เก่าโดยมีราคา ตั้งแต่ 2,000 บาทไปจนถึง หลักหมื่นบาท โดยตนจะคิดดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน และหักดอกเบี้ยเดือนแรกจากยอดเงินกู้ในทันที ที่จ่ายงินให้ลูกค้า และจะให้นำเอาคู่มือการจดทะเบียนรถหรือเอกสารเกี่ยวกับรถที่นำมาจำนำนั้นมาให้ด้วยหักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้าทุกคัน และจากการให้ถ้อยคำรับสารภาพว่า ตนไม่ได้รับอนุญาต ประกอบธุรกิจสินเชื่อ แต่อย่างใด รวมถึง การที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยตามที่ปรากฎหลักฐานในเอกสารที่แนบกับกุญแจรถ รวมถึงข้อมูลที่ผู้กระทำผิด ได้สนทนา กับลูกค้าในแอปพลิเคชันไลน์ ปรากฏข้อความที่ทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นการเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงมีการใช้ข้อความข่มขู่ให้ลูกหนี้ ชำระ มิเช่นนั้น จะนำรถที่ลูกค้ามาฝากไว้ ไปขายต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ เห็นว่าการกระทำของผู้ต้องสงสัย เป็นการกระทำผิดกฎหมายจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และข้อหาว่ากระทำผิดฐาน "ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้“  และ จัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พรบ.โรงรับจำนำ พ.ศ. 2505 , ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต" และดำเนินการตรวจสอบขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป